ดังนั้น สสว. จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) โดยความร่วมมือกับสถาบันอนุญาโตตุลาการ อันจะเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการระงับข้อพิพาททางธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดย สสว. จะสนับสนุนการเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องประโยชน์และขั้นตอนการระงับข้อพิพาททางเลือก ผ่านการจัดสัมมนาให้ความรู้ การเผยแพร่บทความ รวมถึงการส่งต่อปัญหาข้อพิพาทของผู้ประกอบกการผ่านไปยังสถาบันอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นคนกลางที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ เพื่อประสานแนวทางหาข้อยุติในกรณีพิพาททางธุรกิจของผู้ประกอบการ อีกทั้งประชาสัมพันธ์การระงับข้อพิพาททางเลือกในช่องทางต่าง ๆ ของ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs นั้นมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ข้อพิพาทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม SMEs นั้นก็เพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน โดยผู้ประกอบการจำนวนมากยังคงเลือกใช้การระงับข้อพิพาททางหลักหรือการไปขึ้นศาลอยู่ ซึ่งใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ ทั้งด้านเวลา และ ค่าใช้จ่าย จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกันระหว่าง THAC กับ สสว. ในการเผยแพร่ข้อมูล และสนับสนุนให้มีการใช้การระงับข้อพิพาททางเลือก เช่น การประนอมข้อพิพาท และ การอนุญาโตตุลาการ โดยเฉพาะคดีที่มีทุนทรัพย์ขนาดย่อม จะช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการมีทางเลือกในการระงับข้อพิพาทที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับสมาชิก สสว. ที่มีปัญหาข้อพิพาททางธุรกิจ สสว. ได้รับการสนับสนุน Voucher มูลค่า 3,000 บาท จากสถาบันอนุญาโตตุลาการ เพื่อใช้เป็นส่วนลดสำหรับการเข้าใช้บริการจากสถาบันอนุญาโตตุลาการ โดย สสว. จะเป็นหน่วยงานกลางที่จะช่วยเหลือสมาชิก สสว. โดยการประสานงานกับสถาบันอนุญาโตตุลาการ เพื่อเข้าเป็นคนกลางในการช่วยประนอมข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสมาชิก สสว. สามารถสอบถามรายเอียดเพิ่มเติม หรือประสานการส่งต่อข้อพิพาทและรับ Voucher ดังกล่าว ได้ที่ศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (OSS) ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยความร่วมมือครั้งนี้จะมีอายุสัญญา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
“สสว. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับประโยชน์ ลดปัญหาจากข้อพิพาทเกิดขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ผ่านความรู้ความเชี่ยวชาญของสถาบันอนุญาโตตุลาการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ และสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน” นายวีระพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย
No comments:
Post a Comment